นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1. วัตถุประสงค์

CUtisKit เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นภายใต้โครงการปัญญาประดิษฐ์และแอปพลิเคชันอัจฉริยะสำหรับวินิจฉัยโรคผิวหนังในผู้ป่วยเด็ก โครงการวิจัยนี้มุ่งเน้นในการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) และพัฒนา Smart Application เพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยวินิจฉัยโรคเบื้องต้นและเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วยทางไกล โดยเป้าหมายที่สำคัญในการยกระดับสุขภาพของประชากรและการให้บริการด้านโรคผิวหนัง โดยปัญญาประดิษฐ์มีศักยภาพสูงที่จะช่วยในการวินิจฉัยโรคผิวหนังแก่ผู้ป่วยทางไกล เทคโนโลยีจะสามารถช่วยเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างผู้ป่วยและแพทย์เข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้เกิดความรวดเร็วในการรักษา และยังส่งเสริมให้สุขภาพของประชาชนแข็งแรงปลอดภัยได้อีกด้วย

โครงการปัญญาประดิษฐ์และแอปพลิเคชันอัจฉริยะสำหรับวินิจฉัยโรคผิวหนังในผู้ป่วยเด็ก (“โครงการ”) ตระหนักและให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าร่วมในโครงการวิจัย(“ท่าน”) โดยโครกงการวิจัยจะดูแลและบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

โดยนโยบายเป็นส่วนตัวนี้จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่โครงการวิจัยเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และปกป้องดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

โครงการขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจประกาศนี้ก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับโครงการ หากท่านมีข้อกังวลข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลตลอดจนถึงประกาศและนโยบายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรดติดต่อโครงการตามช่องทางการติดต่อที่ปรากฏท้ายนโยบายนี้

2. ประกาศฉบับนี้ใช้กับใครบ้าง

ประกาศฉบับนี้ใช้สำหรับท่านที่เป็นบุคคลธรรมดาที่โครงการมีความสัมพันธ์หรือติดต่อกัน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมและไม่ว่าผ่านช่องทางใด เช่น ผู้เข้าร่วมในโครงการวิจัย ผู้รับบริการ บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมในโครงการวิจัย หรือบุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของโครงการ รวมถึงกรณีที่บิดามารดา ผู้ปกครอง คู่สมรส บุตร ผู้พิทักษ์ ผู้อนุบาล หรือบุคคลอื่นที่กระทำการแทนท่าน เป็นต้น

3. ช่องทางในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้โครงการโดยตรง จากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ติดต่อ เยี่ยมชม เข้าร่วมกิจกรรม ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของโครงการ เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แอคเคาท์สื่อสังคมออนไลน์ อีเมล เป็นต้น

3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่โครงการได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น เช่น หน่วยงานภาครัฐ สถานพยาบาลอื่น และผู้ให้บริการอื่น พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการของพันธมิตรทางธุรกิจ บุคคลที่มาทำกิจกรรมกับโครงการ หรือบุคคลภายนอกอื่นใด (เช่น ผู้ที่แนะนำ สมาชิกในครอบครัวหรือผู้แทนของท่าน หรือบุคคลอื่นใดซึ่งได้รับมอบอำนาจจากท่าน) เป็นต้น

4. ข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่โครงการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

4.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งนี้ ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่โครงการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย จะขึ้นอยู่กับขอบเขตของการให้บริการ หรือบริบทอื่น ๆ ที่ท่านมีความสัมพันธ์หรือติดต่อกับโครงการ

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อสกุล รูปถ่าย เพศ วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประจำตัวประชาชน ลายมือชื่อ เป็นต้น
  • ข้อมูลในการติดต่อ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล
  • ข้อมูลการศึกษาและการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง สถานที่ทำงาน
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่โครงการได้รับจากท่าน เช่น บิดามารดา คู่สมรส บุตร
  • ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของท่าน เช่น ตำแหน่งจีพีเอสของท่าน หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address)
  • ข้อมูลการเข้าใช้ และการขอใช้บริการ เช่น ข้อมูลการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชัน
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลการรักษาพยาบาล ผลตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการ การวินิจฉัยโรค ประวัติข้อมูลการแพ้ยา และประวัติผลข้างเคียงจากยา ประวัติข้อมูลการแพ้อาหาร และประวัติผลข้างเคียงจากอาหาร ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) ศาสนา เชื้อชาติ เป็นต้น
  • ข้อแนะนำหรือความคิดเห็นของท่าน

4.2 ในกรณีที่โครงการจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดเป็นการเฉพาะนอกเหนือจากที่กล่าวมา โครงการจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบเป็นครั้งคราว และอาจขอความยินยอมจากท่านเป็นกรณีๆไป โดยพิจารณาจากประเภทของข้อมูล

  •  ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data)

กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้มีการกำหนดข้อมูลบางประเภทให้เป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา พฤติกรรมทางเพศ ความคิดเห็นทางการเมือง ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น และการเก็บรวบรวมจะทำได้ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงอาจต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ดังนั้น โครงการจะดำเนินการเก็บข้อมูลอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และโครงการจะแจ้งให้ท่านทราบอย่างชัดแจ้งถึงเหตุผลความจำเป็น รวมถึงอาจขอความยินยอมจากท่านเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลอ่อนไหวดังกล่าว

  • ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถ (“บุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรม”)   โครงการจะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรมเฉพาะกรณีและตามแนวทางที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในกรณีที่โครงการมีความจำเป็นจะต้องขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรมสำหรับกิจกรรมใด โครงการจะดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ปกครองหรือผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล ที่มีอำนาจกระทำการแทนบุคคลดังกล่าว เว้นแต่เป็นกรณีขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นการเฉพาะตัวหรือ เป็นการสมแก่ฐานานุรูปแห่งตนและเป็นการอันจำเป็นในการดำรงชีพอันสมควร ซึ่งผู้เยาว์ดังกล่าวสามารถให้ความยินยอมโดยลำพังได้

4.3 โครงการอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่นที่ไม่ได้มาจากท่านโดยตรง เช่น จากหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชนซึ่งเป็นพันธมิตรของโครงการ หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยโดยรัฐบาล และหน่วยงานทางวิชาชีพ สื่อ หรือ เอกสารเผยแพร่สาธารณะ เป็นต้น

4.4 โครงการอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านตามที่ท่านมีปฏิสัมพันธ์กับโครงการผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม เช่น Facebook, Twitter, Instagram, LinkedIn, Line เป็นต้น โดยโครงการอาจใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของโครงการ ผ่านคอมพิวเตอร์ และ/หรืออุปกรณ์พกพาของท่าน ซึ่งเทคโนโลยีอัตโนมัตินี้อาจรวมถึงคุกกี้ เว็บบีคอน พิกเซลแท็ก และเทคโนโลยีการติดตามอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยข้อมูลที่โครงการได้รับและเก็บรวบรวมนี้อาจขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความเป็นส่วนบุคคลของท่านและนโยบายความเป็นส่วนบุคคลของโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มนั้นๆ รวมไปถึงข้อมูลการใช้งานหรือบริการของท่านบนเว็บไซต์ของโครงการ เช่น หน้าเพจที่ท่านเข้าเยี่ยมชมหรือใช้บริการ หรือลิงก์ต่างๆ ที่ท่านได้คลิกเพื่อเข้าถึงเนื้อหาส่วนอื่นของเว็บไซต์ หรือออกไปสู่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม เป็นต้น รวมถึงเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคเมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ของโครงการ เช่น ประเภทระบบปฏิบัติการ ประเภทเบราว์เซอร์ การตั้งค่า ประเภทอุปกรณ์ที่ใช้ หรือข้อมูลประเภท Uniform Resource Locator, ที่อยู่ไอพี (IP Address) เป็นต้น

4.5 การใช้คุกกี้ คุกกี้ (Cookie) คือ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก จัดเก็บในลักษณะของไฟล์ข้อความ (Text file) ที่จะถูกส่งไปยังเบราว์เซอร์ของเจ้าของข้อมูล เพื่อส่งข้อมูลกลับมายังเซิร์ฟเวอร์ทุกครั้งที่เจ้าของข้อมูลได้มีการเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์ของโครงการจะส่งคุกกี้ไปยังเบราว์เซอร์ของท่าน และอาจมีการบันทึกลงในเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ท่านใช้เข้าเว็บไซต์ ซึ่งคุกกี้มีประโยชน์สำคัญในการทำให้เว็บไซต์สามารถจดจำการตั้งค่าต่าง ๆ บนอุปกรณ์ของท่านได้

ทั้งนี้ เมื่อท่านเลือกการบริการใด ๆ ของโครงการ ลงทะเบียนรับข่าวสารหรือการแจ้งทางอีเมล กรอกข้อมูลแบบฟอร์มออนไลน์ หรือกรอกแบบสอบถาม โครงการอาจระบุเบราว์เซอร์ของท่าน และนำข้อมูลจากคุกกี้ และข้อมูลอื่นที่เก็บรวบรวมออนไลน์ไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นที่อยู่ในความครอบครองของโครงการ ทั้งนี้ ท่านอาจลบการตั้งค่าเบราว์เซอร์เพื่อยกเลิกการใช้คุกกี้ และยังคงใช้งานเว็บไซต์ของโครงการต่อไปได้ รายละเอียดเพิ่มเติมเป็นไปตามนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

ข้อมูลโดยตรงที่ได้รับจากการใช้บริการ CUtisKit ของท่าน: โครงการจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบริการที่ท่านใช้และ วิธีการใช้งานของท่าน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ

  • ข้อมูลอุปกรณ์ที่ท่านใช้สำหรับการเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน
  • ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log)
  • ข้อมูลการติดต่อและสื่อสารระหว่างท่านและผู้ใช้งานรายอื่น และ ข้อมูลจากการบันทึกการใช้งาน เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP ของคอมพิวเตอร์ รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ ข้อมูลเครือข่ายมือถือ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเภทของเบราว์เซอร์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกแอปพลิเคชัน ข้อมูลเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานเข้าถึงก่อนและหลัง (Referring Website) ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้แอปพลิเคชัน ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log) 
  • ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log)
  • พฤติกรรมการใช้งาน (Customer Behavior)
  • สถิติการเข้าแอปพลิเคชัน
  • เวลาที่เยี่ยมชมแอปพลิเคชัน (Access Time)
  • ข้อมูลที่ท่านค้นหา การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในแอปพลิเคชันและข้อมูลที่โครงการได้เก็บรวบรวมผ่านเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน 

4.6 โครงการจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาตราบเท่าที่วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ยังคงมีอยู่ หลังจากนั้นโครงการจะลบและทำลายข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่กรณีจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของโครงการ โดยปกติระยะเวลาการเก็บข้อมูลสูงสุดจะเท่ากับ 10 (สิบ) ปี เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดให้เก็บรักษาข้อมูลไว้เป็นระยะเวลานานกว่าที่กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น หรือหากมีความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ เช่น เพื่อความปลอดภัย เพื่อการป้องกันการละเมิดหรือการประพฤติมิชอบ หรือเพื่อการเก็บบันทึกทางการเงิน เป็นต้น

4.7 โครงการจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โดยไม่มีฐานการประมวลผลข้อมูลโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยข้อมูลของท่านอาจถูกเปิดเผย หรือโอนไปยังองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน หน่วยงานของรัฐ หรือผู้ให้บริการภายนอก

ในกรณีที่โครงการจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก โครงการจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่า บุคคลภายนอกจะดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ให้เกิดการสูญหาย การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้ การดัดแปลง หรือการเปิดเผยและการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง

4.8 โครงการจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อผู้รับข้อมูลในต่างประเทศ เฉพาะกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ทำได้เท่านั้น ทั้งนี้ โครงการอาจปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การโอนข้อมูลระหว่างประเทศ โดยเข้าทำข้อสัญญามาตรฐานหรือใช้กลไกอื่นที่พึงมีตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลที่ใช้บังคับ และโครงการอาจอาศัยสัญญาการโอนข้อมูล หรือกลไกอื่นที่ได้รับการอนุมัติ เพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

5. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 โครงการจะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (Access Control) เพื่อป้องกันการเข้าถึงและเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และสอดคล้องกับการดำเนินงานของโครงการ และมาตรฐานที่รับรองโดยทั่วไป

5.2 โครงการกำหนดให้เจ้าหน้าที่ของโครงการ เข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ โครงการยังมีการจัดจ้างผู้ให้บริการภายนอกเพื่อดำเนินการตรวจสอบสถานะให้แน่ใจว่า ผู้ให้บริการภายนอกที่โครงการทำการว่าจ้างจะมีการใช้มาตรการในการเก็บรวบรวม ประมวลผล โอนย้าย จัดการ และรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลอย่างเพียงพอในการให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์ของโครงการ

5.3 โครงการจะมีการสอบทานและปรับปรุงมาตรการดังกล่าวตามความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานต่างๆ ของประเทศและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ดีแม้ว่าโครงการ จะทุ่มเท และใช้ความพยายามในการดูแลข้อมูลให้มีความปลอดภัย ด้วยการใช้เครื่องมือทางเทคนิคร่วมกับการบริหารจัดการโดยบุคคล เพื่อควบคุมและรักษาความปลอดภัยข้อมูล มิให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่เป็นความลับของเจ้าของข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่อาจไม่สามารถป้องกันความผิดพลาดได้ทุกประการ เช่น การปกป้องข้อมูลของเจ้าของข้อมูลจากการถูกจู่โจมโดยไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือถูกเข้าถึงโดยบุคคลที่ไม่มีอำนาจได้ เจ้าของข้อมูลจึงควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ติดตั้งซอฟต์แวร์ประเภท personal firewall เพื่อป้องกันคอมพิวเตอร์จากการจู่โจม หรือโจรกรรมข้อมูล 

6. การรองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลสามารถใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีสิทธิดังต่อไปนี้ 

6.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

6.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

6.3 สิทธิในการโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคล

6.4 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล

6.5 สิทธิในการระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

6.6 สิทธิในการคัดค้านการเก็บ การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.7 สิทธิในการถอนความยินยอม

7. การเปลี่ยนแปลงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

โครงการอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานหรือเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โครงจะแจ้งให้ท่านทราบที่หน้าเว็ปไซต์หรือโดยวิธีการอื่นตามสมควร การที่ท่านใช้บริการของโครงการต่อไปภายหลังที่ได้มีการแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว ถือว่าท่านยอมรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

8. การลบบัญชีผู้ใช้งาน

โครงการอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานหรือเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โครงจะแจ้งให้ท่านทราบที่หน้าเว็ปไซต์หรือโดยวิธีการอื่นตามสมควร การที่ท่านใช้บริการของโครงการต่อไปภายหลังที่ได้มีการแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว ถือว่าท่านยอมรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

9. ช่องทางการติดต่อ

โครงการปัญญาประดิษฐ์และแอปพลิเคชันอัจฉริยะสำหรับวินิจฉัยโรคผิวหนังในผู้ป่วยเด็ก
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
254 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
E-mail : cutiskit@gmail.com
Tel : 02-2186343